ประสบการณ์วัตถุอธิษฐานและพระเครื่องคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยองะพระเครื่องของ

ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเผยแผ่ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ทั้งประวัติ คำสอน ธรรมะ ประสบการณ์วัตถุอธิษฐานและพระเครื่องของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ที่ออกวัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง ซึ่งสมาชิกทุกท่านสามารถเขียนกระทู้ หรือแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ แต่ขอให้เป็นเรื่องราวของคุณแม่บุญเรือนเท่านั้น...ขอบคุณครับ

 

น้ำอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

คุณแม่บุญเรือน เคยกล่าวย้ำหนักแน่นว่า ...

"ให้ทำน้ำอธิษฐานกินทุกวันนะ กินไปเถิดกินให้เนื้อเป็นทิพย์ คราวนี้รังสีปรมาณูก็ทำอันตรายไม่ได้"
ของที่ให้อธิษฐานเองนอกจากน้ำ ศิษย์บางท่านได้กล่าวว่าความจริงยังมีไพลอีกอย่างหนึ่งที่ท่านอนุญาตให้ลูกหลานหรือศิษย์อธิษฐานเองได้ มีลักษณะเช่นเดียวกับการอธิษฐานน้ำ

วิธีใช้ของอธิษฐานบางอย่าง ของอธิษฐานทุกชนิดย่อมใช้ประโยชน์ตามของนั้น ๆ แต่มีระเบียบในใบตั้งน้ำของคุณแม่กล่าวถึงรายการพิเศษอยู่บ้าง ขอนำมาลงไว้ ท่านกล่าวว่า “ปูนต้องนำมาให้อธิษฐานให้ พริกไทยใช้รับประทานวันละเม็ด ไพลใช้รับประทานครั้งหนึ่งเท่าศีรษะมือ โขลกให้ละเอียดแล้วกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำอธิษฐานพอสมควร ถ้าเป็นบิดเติมน้ำปูนใส ถ้าท้องผูกเติมเกลือแล้วไม่ต้องใช้น้ำปูนให้ใช้น้ำอธิษฐานค่อนแก้วดื่มก่อนนอนจะถ่ายได้”

คำอธิษฐานทั่วไป “ข้าพเจ้าสมมุติว่า คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นผู้อธิษฐานธรรมของพระพุทธเจ้า ขอธรรมของพระพุทธเจ้าจงดลบันดาลของเหล่านี้ให้ศักดิ์สิทธิ์เป็นยาทิพย์ ใช้รักษาโรคให้หายทุกชนิด ให้มีแนวชีวิตรุ่งโรจน์ ให้อายุยืน” (ปรารถนาสิ่งใดให้อธิษฐานตามไปด้วย)

 

คำอธิฐานธรรมให้พรลูก (คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม)

สักวาบัวขาว เพริดพราวอยู่ในแก้วพราวแพรวดี รวีนำมาน่าสรรเสริญ สะอาดเกินขาวผ่องละอองศรี สามัคคีกันงามเฉิดฉัน ที่ ๑๒ วันอังคารบ้านสามัคคี มีการเลี้ยงเมี่ยงคำประจำปี เพราะจะมีการจากกัน วันที่ ๑๗ คงเสร็จสม จะได้มีความเบิกบานสำราญรมย์ ไปข้างหน้าก็ต้องมีความประเสริฐต้องเกิดผล ทุกๆ คนหวังบริสุทธิ์ประเสริฐศรี เครื่องหมายมีปทุมาสีขาวเพริดพราวดี เหมือนมีใจขาวลูกสาวแม่ นั่งยิ้มแต้คอยท่าน่าสรรเสริญ ถึงแม่ไกลใจลูกผูกเหลือเกิน ถึงกายห่างโดยบังเอิญลูกสุดห้าม ตามแต่ธรรมจะบันดาล ลูกอยู่หลังจะตั้งน้ำอธิษฐานทุกเสาร์เฝ้ารับรอง เมืองไทยจะได้เป็นเมืองทอง แม่กลับจะรับรองให้เต็มที่ เพราะเขียวมีสายขาวราวปีเดียว คงจะเหนี่ยวทรัพย์ได้มากมายเอย

.....หมายเหตุ.....เข้าใจว่าเป็นคำอธิษฐาน
ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ หรือ ๒๔๙๙ ตอนท่านจะจากลูกไปอยู่บ้านนาซา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

 

เรื่องควรรู้ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

นอกเหนือจากความ "เด็ดขาด" และมั่นในสัจจะวาจา อันเป็นที่รู้กันดีในหมู่ศิษย์และบุคคลทั่วไปที่ได้มีโอกาสเข้ารับการอนุเคราะห์จากคุณแม่แล้ว นิสัยส่วนตัวบางประการของท่านก็ได้รับการบอกเล่าโดยคุณป้านพรัตน์ ผานิบุศย์ไว้ ดังนี้

เรื่องที่ ๑
คุณแม่ไม่มีฟัน แต่คุณแม่กินหมากและ ชอบกินไอศครีม (ไอติม)
คุณแม่ไม่ทาน ๑. หัวปลีกล้วย เพราะกลัวอัปรีย์จัญไร ๒. ไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อ วัวควาย ๓. ไม่ทานขนมจีน น้ำยา เดี๋ยวไร้น้ำยา

เรื่องที่ ๒
ดอกไม้ที่คุณแม่ชอบ คือ ๑. ดอกบานไม่รู้โรย ทำการสิ่งใดก็ไม่มีวันร่วงโรย ๒. ดอกป็อบปี้ ๓.ดอกแก้ว และจะไม่ชอบเอาพวงมาลัยมาคล้องคอพระพุทธรูปและรูปเหมือนบูชา ท่านให้วางใส่พานหรือที่หน้าตัก

เรื่องที่ ๓
คุณแม่จะไม่ชอบให้เรียกนามท่านว่า "แม่ชีบุญเรือน
โตงบุญเติม" ท่านบอกว่าท่านไม่ใช่แม่ชี และท่านจะไม่ชอบให้ใครเขียนชื่อท่าน และนามสกุลแบบผิดๆ

เรื่องที่ ๔
คุณป้านพรัตน์(ลูกศิษย์คุณแม่)เล่าให้ฟังว่าสิ่งที่ลูกศิษย์ได้ลืมกันไปแล้วก็คือ คุณแม่ชอบดู ละครเรื่องแก้วหน้าม้า มากๆ และชอบตอนที่แก้วหน้าม้าตอนออกศึก ป้าบอกว่าเวลาท่านดู ก็จะหัวเราะเวลาที่แก้วหน้าม้าแปลงร่าง และเต้นรำและร้องเหมือนม้า ที่บ้านสามัคคีเคยจ้างมารำให้แม่ชม ประมาณเดือนมีนาคมอยู่ครั้งหนึ่ง ภายหลังก็ไม่ได้ว่าจ้างมาอีก เนื่องจากค่าการแสดงนั้นมีราคาที่แพง

นอกจากที่คุณป้านพรัตน์(ลูกศิษย์คุณแม่)เล่าไว้ดังกล่าวข้างต้น
ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยส่วนตัวของคุณแม่บุญเรือน ที่ สิบตำรวจโทคำ สิทธิวงศ์ เพื่อนสนิทของ สิบตำรวจโทจ้อย โตงบุญเติม สามีคุณแม่บุญเรือน ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในขณะที่สามีคุณแม่บุญเรือนเสียชีวิต สตท.คำ ได้เล่าถวาย พระมหารัชชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระรัชชมงคลมุนี ไว้เมื่อ วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๔๘๙ ไว้ดังนี้

".....นอกจากนี้ แม่บุญเรือนยังเป็นผู้ที่กล้าผจญต่อการกรากกรำ จะไปไหน ๆ ไกล ๆ ถึงค่ำ ๆ ก็ไปได้ผู้เดียวและชอบเดินไปด้วย และเป็นผู้มีความกรุณากว้างขวางมีคนรู้จักมาก ผู้ที่รู้จักโดยมากก็มีความรักใคร่นับถือทั้งนั้น...."

 

พระพุทโธคลัง วัดสารนาถธรรมารามจ.ระยอง

คุณแม่บุญเรือนท่านได้สร้างและอธิษฐานธรรมขนาดหน้าตัก 9 นิ้วและอัญเชิญขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่ยอดมหาอุโบสถวัดสารนาถฯ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง คุณแม่บุญเรือนได้กล่าวไว้ว่าพระพุทโธคลังนี้อธิษฐานไว้สำหรับเรียกเงินเข้าประเทศ

รู้หรือไม่

ตามรูปคือพระพุทโธคลังองค์ที่สร้างขยายจากองค์จริง ประดิษฐานอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของพระพุทโธใหญ่(พระประธาน)ที่พระอุโบสถวัดสารนาถฯ มีความศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่ากับพระพุทโธคลังทุกประการ

Cr. นวเรศ วิมล

 

สมบัติดีๆที่คุณแม่บุญเรือนได้ทิ้งไว้ให้พวกเราลูกหลาน
และจะอยู่ยืนนานตลอดไป

 

ข้อเท็จจริงเรื่องทรายทอง คุณแม่บุญเรือน

รบกวนอ่านเพื่อความเข้าใจ แล้วท่านจะแยกแยะอย่างไรก็สุดแท้แต่ท่าน ข้อมูลตรงนี้อัพเดท และมีหลักฐานชัดเจนที่สุดแล้วค่ะ ถ้าใครอยากจะลงพื้นที่เพื่อมาสัมภาษณ์ลุงดำก็เชิญมาที่วัดสารนาถฯเพื่อนิมนต์พระอาจารย์แก้วเข้าไปที่บ้านลุงดำค่ะ

บ้านนาซา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
เป็นสถานที่ที่แม่บุญเรือนนั่งทำสมาธิขั้นสูง นิโรธสมาบัติ คุณแม่ให้บอกลูกศิษย์ขุดดินใต้ที่นั่งที่ท่านนั่งในบริเวณนั้นปรากฏว่าดินที่ขุดขึ้นมาเป็นทรายสีทองอร่าม เรียกว่าทรายทองศักดิ์สิทธิ์ หรือทรายทองนิโรธ

คุณแม่บุญเรือนได้บอกกล่าวกับลูกศิษย์ว่า นำไปหว่านในที่ดินก็จะมีมูลค่าเพิ่ม บูชาติดบ้าน ก็ป้องกันไฟใหม้ พกติดตัวป้องกันภัยได้ทุกๆชนิด บ้านใด มีไว้สักการะบูชา บ้านใดมีทรายทองศักดิสิทธิ์นี่ประทับอยู่ บ้านนั้น อยู่เย็นเป็นสุข และเจริญรุ่งเรือง

ปัจจุบันบ้านหลังนี้อยู่ในความดูแลของลุงดำหรือลุงสาลูกชายแท้ๆของยายวายที่เป็นลูกศิษย์ของคุณแม่บุญเรือนซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่คุณแม่บุญเรือนมาพำนักอยู่เป็นเวลา1ปี เนื่องจากลุงดำมีความเคารพ และศรัทธา พระอาจารย์แก้ว จึงได้ขุดทรายทองขึ้นมาถวายอีกครั้งเพื่อให้พระอาจารย์แก้วนำมาใช้ประโยชน์ในทางพระศาสนาหรือสงเคราะห์บุคคลต่างๆตามเห็นสมควร

ลุงดำได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า นอกจากพระอาจารย์แก้วแล้วจะไม่ให้ใครเข้ามาขุดหรือขออนุญาตนำทรายทองขึ้นมาอีกเด็ดขาด

 

ทองคำเปลวศักดิ์สิทธิ์ คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานธรรม

วิธีประจุทองคำเปลวศักดิ์สิทธิ์

เข้าหน้าผากของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
วิธีใช้ทองใบติดที่ตรงหน้าผากแล้วให้ว่าตามดังนี้ บอกว่า..,

ยายหมอ บุญเรือน
ทุติยัมปิ อิมังประจุทรามิ
ตะติยัมปิ อิมังประจุทรามิ

แล้วก็บอกว่า ทองที่ศักดิ์สิทธิ์ของ ยายหมอ บุญเรือน ให้อยู่ในตัวหนูตลอดชาติ ใช้มือถือกระดาษแผ่นทอง สั่งบอกว่า ให้ทองศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในตัวเรา โดยใช้แผ่นทองในกระดาษถูไปถูมาที่หน้าเรา ทองก็เข้าไปอยู่ในหน้าเอง ทองจะป้องกันตัวได้ดี สมองดี เรียนเก่ง

***** หมายเหตุ ใช้ทองคำเปลว วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประจุมีปัญญาสามารถในการศึกษา และป้องกันภัยอันตรายต่างๆ นานับประการ *****

 

ศิลาน้ำ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

ศิลาน้ำหรือหินหลายขนาดที่อยู่ใต้น้ำคุณแม่บุญเรือนได้ระดมคนไปเก็บมาและอฐิษฐานธรรมเอาไว้เพื่อใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และหินนี้ได้มาจากไหน

น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ศิลาน้ำ ของคุณแม่บุญเรือนมีต้นกำเนิดมาจาก น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี ทำไมต้องเก็บมาจากน้ำตกพลิ้ว ก็เพราะว่า "หินจากน้ำตกพลิ้วเป็นหินที่มีชีวิต ถ้ามองดีๆที่ตัวหินจะเห็นเป็นเส้นสีแดงๆ นั่นเปรียบเหมือนเส้นเลือด และหินนี้สามารถนำไปอธิฐานธรรมรักษาโรคภัยได้"

และศิลาน้ำนี้ ลูกศิษย์คุณแม่บุญเรือนแถบจันทบุรีและระยองได้นำมาเข้าร่วมพิธีที่โบสถ์วัดสารนาถฯปี 2499 คุณแม่ท่านอธิษฐานไว้มีอยู่ส่วนหนึ่ง ได้เก็บไว้ที่โบสถ์วัดสารนาถฯ และมีส่วนท่านแจกแก่คนที่ยังไม่ได้ ศิลาน้ำในงาน ศิลาเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นของแทนตัวท่านเมื่อวายชนม์ไปแล้ว เมื่อใช้ศิลาน้ำใส่ในน้ำ น้ำนั้นก็จะเป็นน้ำอธิษฐานดื่มกินรักษาโรคได้ และป้องกันภัยอันตรายได้ทั้งปวง หากนำไปใส่ปูน ปูนนั้นก็เป็นปูนอธิษฐาน รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ดี ศิลาน้ำที่ท่านแจกจ่ายไปแล้วนั้น ต้องนำไปแช่น้ำไว้ ห้ามนำไปแกะ ขูด หรือเจียรนัย หากนำไปทำหัวแหวนก็ใช้ป้องกันภัยได้อย่างล้ำเลิศ

 

หลังจากที่พี่นวเรศได้อธิษฐานจิตพระแจกงานกฐินของวัดสารนาถธรรมารามจ.ระยอง ในปีนี้จะตรงกับวันที่ 27 ตุลาคม 2567

พระอาจารย์แก้วก็ได้เล่าประสบการณ์ต่างๆของผู้ศรัทธาคุณแม่บุญเรือน ที่มาเอาน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ไปดื่มกินและอธิษฐานพรขอให้โรคภัยไข้เจ็บหาย ว่าสำเร็จกันทุกราย พี่นวเรศก็ได้กล่าวกับพระอาจารย์ว่าจุดที่คุณแม่บุญเรือนท่านได้สถิตพลังของท่านไว้มากที่สุดในวัดนี้ก็คือบริเวณ..,บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

 

ประมาณปี 2550

ได้เคยนำเอา
"พระพุทโธน้อย 2494" และ "พระนางพญา วัดสารนาถ 2499"
ไปขอให้ครูบาเทือง วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เชียงใหม่ตรวจพลัง และครูบาบอกว่า
"พระทั้งสองแบบมีพลังคุณแม่บุญเรือนเหมือนกัน แต่พระนางพญา วัดสารนาถฯ มีความเป็นตัวตนของคุณแม่มากกว่า

(ซึ่งไม่ผิด เพราะ"พระพุทโธน้อย" เสกแค่ 3 วัน อันสมโภชด้วย "ธรรมของพระพุทธเจ้า" และคุณแม่บุญเรือนเสกจริงๆแค่ "วันเดียว" ในขณะที่อีกวัน ให้ "พระในมิติละเอียดปลุกเสก" ก่อนที่ทำบุญฉลองพระปิดท้ายในวันที่ 3 ในขณะที่ "พระนางพญา วัดสารนาถ 2499" คุณแม่บุญเรือนเสกพร้อมกับ "พระประธาน วัดสารนาถ" ถึง "4 วันติดกัน....!!!)

(มีหนังสือหลักฐานที่คุณแม่บุญเรือนลงลายมือชื่อรับรองในเรื่องนี้ด้วย แต่ต่อมา มีการเอาไป "ตัดแปะ" ผสมโรง" เป็นพิธีของ "พระพุทโธน้อย 2494" เฉยเลย)
ประกอบกับ "พระนางพญา" เป็น "พระของผู้หญิง" อีกต่างหาก หาก "พระนางพญา วัดสารนาถ 2499 จะมีความเป็นคุณแม่บุญเรือนมากกว่าพระพุทโธน้อยอย่างที่ครูบาเทืองว่า ก็นับว่า "ถูกต้องตามหลักเหตุผลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง" แน่ๆแล้ว

แล้วได้นำมาเผยแพร่ในสื่อส่วนตัว ตั้งแต่ราวปี 2550
ก็ทำให้ "พระนางพญานิรนาม" ที่เคยมีให้บูชาที่วัดสัมพันธวงศ์ในราคาแค่องค์ละ 100 เดียว
ที่ตอนแรกวัดตั้งอัตราไว้องค์ละ 300 บาท แต่คนไม่รู้จัก และคนที่วัดเองก็ไม่รู้ที่มา ทำให้คนไม่สนใจเช่าบูชา เลยเหลือติดวัดบานเบิกเป็นพันๆองค์
จนเมื่อ"คนวังต้องห้าม"ไปเจาะลึกเรื่องนี้ถึง
"เจ้าคุณไฉน" (อดีตเจ้าอาวาสวัดสารนาถฯ)
จนรู้แน่ ว่าเป็นของเก่าถึงปี 2499
ก่อนจะนำถวายให้ครูบาเทืองเช็คในส่วนแห่ง "นามธรรม" อีกที จนแน่ใจ
แล้วนำมาเปิดเผยใน
"เวปไซต์พุทธวงศ์"
คราวนี้ "พระนางพญา 2499 วัดสารนาถฯ" ที่เคย "จำวัด" อยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์มานาน
"หลายสิบปี" ก็ "พรึ่บ..."หมดเกลี้ยงวัดในพริบตา...!!
จนลุมาถึงราวปี 2557
ที่ได้มีการค้นพบ
"พระรอด วิหารสมเด็จ ครูบาเจ้าศรีวิไชย วัดเบญจมบพิตร พ.ศ.2478 - 2479"
และภายหลังจากตรวจสอบความเป็นมาทาง "มิติปกติ" จนแน่ใจว่า
"ใช่ ต้องใช่แน่ๆ"
เป็นที่แน่นอนแล้ว
จึงได้เริ่มปฏิบัติการตรวจสอบในทาง
"มิติละเอียด"
เสริมเข้ามาอีกทาง
โดยหลังจากที่นำ "พระรอด วิหารสมเด็จ ครูบาเจ้าศรีวิไชย วัดเบญจมบพิตร พ.ศ.2478 - 2479" ไปถวายให้
"ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่"
ตรวจสอบ
และท่านได้ "ยอมรับ" ว่า "แม่นแล้ว" เป็นอันดีแล้ว
ก็ได้นำ "พระรอด วิหารสมเด็จ ครูบาเจ้าศรีวิไชย วัดเบญจมบพิตร พ.ศ.2478 - 2479" มาขอให้
"ครูบาเทือง นาถสีโล วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เชียงใหม่"
ที่ส่วนตัวยอมรับว่าครูบาเทือง นั้น
"ปรจิตวิชาว่องไวมาก"และ"ฉลาดลึกล้ำมากๆเป็นอัศจรรย์"
(เท่าที่เคยกราบพระมาเป็นร้อยเป็นพันองค์ในชั่วชีวิตนี้ พระยุคร่วมสมัยที่ยังทรงสังขารอยู่ในปัจจุบันที่มี "ปัญญาธรรม" ในระดับ "หักยอดฉัตร"จริงๆ หาไม่ได้ง่ายๆเลย ที่ส่วนตัวมีประสพการณ์มาตรงๆนักต่อนักจนต้องยอมรับด้วยใจจริง ก็มีอยู่ 2 องค์ ก็คือ..,
หลวงพ่อปราโมทย์ วัดสวนสันติธรรม ชลบุรี
และครูบาเทือง วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน เชียงใหม่)
อันได้รู้จักคุ้นเคยกับท่านมานานราว 30 ปีเต็มๆ
(เจอท่านครั้งแรกในงานพุทธาภิเษกหลวงพ่อโสธร 80 ปีกรมตำรวจ เมื่อปี 2536)
ท่านตรวจสอบอีกที
และในทันทีที่ครูบาได้สัมผัสกับองค์พระรอด วิหารสมเด็จ
"ครูบาเทืองถึงกับอุทานออกมาในทันทีว่า
"กูขนลุกขนพองไปหมดเลย....!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
"นี่ใช่ของครูบาศรีวิไชยจริงๆ....!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ก่อนที่ครูบาเทืองจะนำ "พระรอด วิหารสมเด็จ ครูบาเจ้าศรีวิไชย วัดเบญจมบพิตร พ.ศ.2478 - 2479" ที่ "คนวังต้องห้าม" ได้ถวายพร้อมตลับ
"คล้องใส่สร้อยประคำ"
ของท่านในทันที..ยังจะมีอะไรต้องสงสัยอีกหรือ


ขอบคุณบทความจากคุณนวเรศ

 

การรักษาด้วยวาจาสิทธิ์ ของคุณแม่บุญเรือน

จากบันทึกของนายจำรัส สุขประเสริฐ จ. อุดรธานี

ความว่า..,อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เดินทางโดยขบวนรถไฟถึงจังหวัดอุดรเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2496 เวลา 17:15 น. ก่อนหน้ารถไฟจะเทียบเข้าชานชลาสถานีประมาณ 20 นาทีได้มีหมอกลงที่สถานีรถไฟและบริเวณบริเวณตัวเมืองอุดรหน้ามืดไปหมดอยู่ห่างกันประมาณ 10 วา ยังไม่เห็นกันเลย รถยนต์วิ่งตามท้องถนนต้องเปิดไฟหมอกหนามือเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อนพอถึงสถานีประมาณ 10 นาทีหมอก็ค่อยค่อยจางหายไปชาวอุดรต่างพิศวงงงงวยกันและจดจำกันไปต่างๆนานา

เมื่ออุบาสิกาบุญเรือนลงจากรถไฟมีผู้ คนมารับเป็นจำนวนมากอุบาสิกาได้พักที่บ้านผมค่ำของวันนี้ได้มีผู้มาหาเป็นจำนวนมากนายครรชิตสกลขังพนักงานธนาคารกสิกรไทยได้มาหาและได้บอกกับอุบาสิกาบุญเรือนว่าตัวเค้าป่วยเป็นโรคปวดท้องมานานแล้วเวลานี้ก็ยังปวดอยู่หมดเงินรักษาไปมากมาย อุบาสิกาบุญเรือนจึงได้ฟังและสั่งว่าในขณะนั้น อย่าปวดให้หายปวดเดี๋ยวนี้ และอุบาสิกาบุญเรือนก็ถามในครรชิตว่าหายปวดหรือยัง นายครรชิตตอบว่าหายปวดแล้ว อุบาสิกาบุญเรือนจึงสั่งว่า คืนนี้อย่าปวด เพราะนายครรชิตบอกว่าเวลากลางคืนปวดแทบนอนไม่ได้ทุกคืน
ครั้นรุ่งเช้านายครรชิตมาบอกอุบาสิกาบุญเรือนว่าเมื่อคืนนี้ไม่ปวดเลย ได้นอนสบายตลอดทั้งคืนและในระหว่างที่อุบาสิกาบุญเรือนพักอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี

ตอนเช้าอุบาสิกาบุญเรือนได้ไปอธิษฐานจิตให้แก่ประชาชนที่วัดสมโพธิสมภาร ทุกวันมีประชาชนนำน้ำปูน ไพล พริกไทย สาคู มาให้อุบาสิกาบุญเรือนอธิษฐานจิต มากมาย ทุกวัน

 

ถุงเหนี่ยวทรัพย์ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

ถุงเหนี่ยวทรัพย์ของคุณแม่บุญเรือนมีหลายสี เช่น สีเขียว ขาว น้ำเงิน เหลือง ชมพู แดง ดำ
มีหลายแบบหลายลักษณะทั้งผ้าละเอียด ผ้าหยาบ ใบเล็ก ใบใหญ่ แบบขลิบขาวขอบ แบบผ้าพื้น แบบสอยสอยตะเข็บปากถุงด้วยมือ ถุงแบบรวมหลายสีก็มี คุณแม่บุญเรือนเป็นคนปรานีตท่านจะชอบถุงที่เย็บด้วยด้วยมือ และตรวจทานด้วยตัวท่านเองทุกใบ และมีส่วนถุงที่ลูกศิษย์นำมาให้คุณแม่อธิษฐานเป็นการส่วนตัว เป็นต้น

คุณแม่ได้อธิษฐานถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ จากนั้นจึงได้แจกแก่บรรดาสานุศิษย์เมื่อปี 2498 แล้วยังให้ให้ลูกศิษย์แถบภาคตะวันออกเอาของมาเข้าร่วมพิธีใหญ่ในปี 2499 ที่โบสถ์วัดสารานาถธรรมรามจ.ระยอง ซึ่งได้รวมวัตถุอธิฐานของท่านอีกหลายอย่าง อาทิ เช่น ศิลาน้ำ พลอยอธิฐาน เบี้ย ข้าวตอกพระร่วง เหรียญสตางค์รู แต่ของที่ใส่อยู่ข้างในถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้

ของที่ท่านอธิษฐานจิตไว้ มาใส่ มีอานุภาพทางด้านโภคทรัพย์โดยเฉพาะ ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์
มีเงินนับยิ้มกริ่ม ถุงขาวเจ้าทรัพย์ นั่งนับทรัพย์อิ่มเอิบ ถุงชมพูคู่ชื่น ยั่งยืนมั่นคง ถุงแดงแรงฤทธิ์ พิชิตโชค
ถุงดำอมฤต พิชิตภัย ถุงน้ำเงินเจ้าบารมี วาสนาดีมีอำนาจ ถุงเหลืองเฟื่องฟู เชิดชูเกียรติ

โดยเฉพาะถุงของคุณแม่บุญเรือน ปัจจุบันก็ราคาสูง เพราะมีประสบการณ์มาก และหาของแท้ยากมาก

 

ถุงเหนี่ยวทรัพย์ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

ของอธิษฐาน ของ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

สามารถพกใส่ในกระเป๋ากางเกงได้หากสิ่งนั้นมีวิธีการที่ต้องใช้เช่นนั้น ไม่ทำให้พุทธคุณเสื่อมลงแต่อย่างใด
เนื่องจากคุณแม่บุญเรือนท่านใช้การอธิษฐานธรรม อธิษฐานจิต ลงบนของอธิษฐาน(ซึ่งการอธิษฐานนี้ จะมีความละเอียดสูง และไม่มีวันเสื่อมพุทธคุณโดยง่าย ยกเว้น หากคิดไม่ดีต่อ สถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ของเหล่านั้นจะเสื่อมพุทธคุณทันที ตามที่คุณแม่ฯได้กล่าวไว้กับลูกศิษย์)

เพราะฉะนั้น ทุกท่านสบายใจได้ในการใช้ของอธิษฐานต่างๆ หากทำตามที่ได้ระบุการใช้ไว้ให้แล้ว
เคล็ดการบูชา "ถุงเหนี่ยวทรัพย์" ให้ได้ผลดี

นำถุงเหนี่ยวทรัพย์มาพนมไว้ที่มือ และทำการอธิษฐาน ต่อคุณแม่ฯท่าน ขอให้ท่านรับทราบว่าตอนนี้.... ชื่อ - นามสกุล ของท่าน..... ได้บูชา "ถุงเหนี่ยวทรัพย์" นี้มาเพื่อพึ่งบารมี คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

ให้อนุเคราะห์ลูกหลานคนนี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ประกอบกิจการงานใดให้สำเร็จ ค้าขายให้มีแต่คนเข้ามาซื้อมีกำไรมากมาย ให้มากมีด้วยโภคทรัพย์ทั้งปวง ......อธิษฐานขอตามที่ปรารถนา....... เมื่อเสร็จแล้วให้นำไปใส่กระเป๋าเงิน พกพาติดตัวหรือวางหิ้งบูชา

"คาถาพระฉิมพลี" หากสวดได้ทุกวันจะดีมาก จะช่วยเสริมให้ "ของอธิษฐาน" ที่เกี่ยวข้องกับการเงินเห็นผลได้เร็วขึ้น นี่คือเคล็ดลับที่ไม่ลับ ในการบูชา "ถุงเหนี่ยวทรัพย์"

 

#บ่อน้ำทิพย์

สถานที่สำคัญและมีความศักดิ์สิทธิ์มากอีกแห่งหนึ่งในวัดสารนาถธรรมาราม
ก็คือบ่อน้ำทิพย์ที่คุณแม่บุญเรือนได้เข้านิโรธสมาบัติอธิษฐานธรรมไว้ #เพื่อประโยชน์ของมวลมนุษย์ทั้งหลายตลอดไปตราบชั่วกาลนาน

บ่อน้ำทิพย์ดังกล่าวอยู่ในเขตสังฆวาส เมื่อถึงเทศกาลกินเจ ชาวจีนในระยองจะต้องตั้งพิธีทำน้ำมนต์ ก็จะพากันไปตักเอาน้ำจากบ่อน้ำทิพย์ในวัดสารนาถธรรมารามนี้ เป็นประจำ

คนจีนเหล่านั้นเลว่า เมื่อมีการอัญเชิญองค์ฮุดโจ้ (ฮ้อเอี้ยฮุ้นเซี้ยโจ้ว)เข้าประทับทรง ท่านก็จะบอกให้ไปตักเอาน้ำจากบ่อน้ำทิพย์ในวัดสารนาถนี้ไปทำน้ำมนต์ แสดงว่าน้ำในบ่อน้ำทิพย์ที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานไว้ในวัดสารนาถธรรมารามนี้

แม้ในหมู่มวลเทพเทวดา ก็ยังเป็นที่ล่วงรู้กันถึงความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดี
ความศักดิ์สิทธิ์ของบ่อน้ำ วัดสารนาถ
วัดสารนาถ มีบ่อน้ำบาดาล ที่คุณแม่ท่านอธิษฐานไว้ ด้านล่างมีศิลาน้ำที่ท่านเทลงไปจำนวนมาก
พระในวัดเคยเอาเชือกผูกเอว ดำลงไปเพื่อจะเอาศิลาน้ำ แต่ดำลงไปยังไงก็ไม่ถึงก้นบ่อสักที จนเชือกยาวๆสุด แต่พระเล่าว่า ด้านล่างบ่อน้ำนั้นน้ำเชี่ยวแรงมากจนไม่สามารถลงไปได้ ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้ง ก็เหมือนเดิม
ไม่ว่าจะเอาไม้ยาวๆปักลงไป หรือเอาหินก้อนใหญ่ผูกเชือกลงไป ก็ไม่ปรากฎว่าน้ำจะไหลแรงหรือน้ำวน แต่พอดำลงไปน้ำกับเชี่ยววนแรงมาก จนพระรู้สึกกลัวไม่กล้าลงไปอีก
หากท่านใดไม่มีศิลาน้ำสามารถไปตักน้ำจากบ่อน้ำทิพย์แห่งนี้มาดื่มกินป้องกันรักษาโรคภัยได้ ตามอธิษฐาน

Cr. ติ๊ก พรหมโชติ

 

ทรายทองนิโรธ คุณแม่บุญเรือน จากบ้านยายวาย บ้านนาซา อ.แกลงจ.ระยอง

ตามภาพ ลุงดำหรือลุงสาชื่อจริงๆ ของท่านชื่อลุงสา เป็นผู้ขุดทรายทองให้พระอาจารย์แก้ว ลุงสาบอกว่ามีคนไปหาผลประโยชน์กับลุงสาเยอะ ทรายทองที่ขุดนี้ลุงสา

มอบให้พระอาจารย์แก้วเพื่อทำประโยชน์ให้วัดสารานาถฯต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับลุงสาหรือลุงดำลูกชายแท้ๆของยายวาย บ้านนาซา จ.ระยอง

 

เมื่อวันทึ่ 27.09.67
กราบขอบพระคุณคุณย่านพรัตน์ ผาณิบุศย์ ลูกศิษย์คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เมตตาสอนธรรมะให้กวางกับลูกสาวนะคะ

คุณย่านพรัตน์สอนว่า..,ใครที่มาอยู่ในสายคุณแม่บุญเรือน ท่านจะรู้ว่าใครอยู่ในศีลในธรรมหรือไม่.., ถ้าเป็นคนดีมีศีลธรรมท่านจะมาโปรดมาหาเอง
งานเสกวัตถุมงคลเป็นการส่วนตัวของพี่นวเรศเและคุณหมอ

ณ.วัดสารนาถธรรมารามจ.ระยอง

 

ขอเชิญร่วมบุญทอดกฐินสามัคคีณวัดสารนารถธารามจังหวัดระยอง ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567

ตามกำหนดการที่ได้แจ้งไว้

ขออนุโมทนาสาธุทุกท่าน